จตุรัสที่สวยงามที่สุดในยุโรป เป็นกลุ่มอาคารที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมทั้งบาโร้ค โกธิค นีโอ-โกธิค และเป็นสถานที่ซึ่งยูเนสโก้ ยกย่องให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.1983
ที่นี่ได้เปิดพิพิธภัณฑ์เพื่อต้อนรับอาคันตุกะ ทันทีที่ผู้มาเยี่ยมชมก้าวเท้าเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ ก็จะได้ยลโฉมป่าโกโก้และช็อกโกแลตตำรับโรงงาน Willy Wonka ในภาพยนตร์ฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง Charlie and the Chocolate Factory นอกจากนี้ยังจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของช็อกโกแลตอีกด้วย โดยเริ่มตั้งแต่ถิ่นกำเนิดในภูมิภาคอเมริกากลาง ที่ซึ่งชาวอินเดียนแดงเผ่ามายา และแอซเทค ดื่มช็อกโกแลต ไปจนกระทั่งชาวสเปนนำช็อกโกแลตเข้าไปยังทวีปยุโรป ก่อนที่ของหวานชนิดนี้จะถูกผลิตออกมามากมายมหาศาล ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรม
เป็นหนึ่งในเมืองจำลองที่ลงทุนลงเเรงจำนวนมากมายมหาศาลเลยทีเดียว ด้วยการรวมรวมสถานที่สำคัญทั่วทั้งยุโรปกว่า 80 เเห่ง โดยได้ทำการจำลองออกมาเป็นกว่า 350 อาคารด้วยกัน โดยในอัตราส่วน 1 ต่อ 25 ซึ่งถือว่ามีความสวยงามเพราะสามารถลงรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างวิจิตรบรรจงอย่างมากโดยคุณจะได้พบกับความสวยงามของอาคารจำลองต่างๆ ที่ทำออกมาได้เหมือนเป็นอย่างยิ่ง เเละอาคารเหล่านี้ก็อยู่ทั่วทั้งยุโรป เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะทำให้เหมือนทัวร์ยุโรปได้ครบในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเลยทีเดียว
นับว่าเป็นถนนสองเส้นที่มีมาตั้งเเต่เริ่มสร้างกรุงบรัสเซลล์ เเล้วทำให้หลายๆ อาคารในย่านนี้มีความเก่าเเก่เเละสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมในเเต่ละยุคสมัยที่ผสมผสานกันอย่าลงตัวเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว เเละมันยังเป็นย่านการค้าที่มีความสำคัญอีกเเห่งของเมืองหลวงเเห่งนี้ โดยในส่วนของถนนโบวเวอร์ยาร์ด เดอ วอเตอร์ลู นั้นจะเป็นย่านการค้าที่มีความทันสมัยอย่างมาก โดยเป็นเเหล่งช็อปปิ้งยอดนิยมของชาวเบลเยียมเเละนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างมาก ในขณะที่ถนน อเวนิว หลุยส์ นั้นจะเป็นถนนที่มีความเก่าเเก่โบราณเป็นอย่างยิ่ง โดยสองข้างถนนนั้นจะมีอาคารเก่าเเก่ที่ได้รับการรีโนเวทให้มาเป็นร้านค้าเเบรนด์เนมหลายร้านด้วยกัน เเละเป็นถนนที่เก่าเเก่มากที่สุดของกรุงบรัสเซลล์
ทะเลสาบแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ทะเลสาบแห่งรัก" เป็นจุดชมวิวขนาดใหญ่ จุดปิกนิกริมน้ำ และเป็นสถานที่พักผ่อนจากความพลุกพล่านบนถนนในศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองบรูจส์ และเป็นแหล่งการไหลรวมของสายน้ำที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก บ้านเรือนที่มีลักษณะเป็นหอคอยคล้ายกับเทพนิยายรวมถึงต้นวิลโลว์ที่พริ้วไหวไปมายิ่งทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติอีกที่หนึ่งของบรูจส์
เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองบรูจส์ โบสถ์แห่งนี้งดงามไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคก่อน
เป็นโบสถ์สไตล์โรมันและโกธิค เล่ากันว่าโบสถ์แห่งนี้ ได้เก็บรักษาเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดและอัฐิของพระเยซูไว้ ตามผนังจะมีภาพวาดเรื่องราวของพระเยซูมากมาย ด้านในสุดจะมีอัฐิวางอยู่บนแท่นบูชาสีทองที่ประดับด้วยเพชรพลอยอย่างงดงาม เป็นที่นิยมของนักม่องเที่ยวและนักแสวงบุญ
ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองบรูกส์ มีความสูงถึง 83 เมตร และบันได 366 ขั้นเพื่อขึ้นสู่ยอดของหอระฆัง
เป็นที่ตั้งของตลาดค้าขายและที่จัดงานต่างๆของเมือง
เป็นโบสถ์แบบนีโอคลาสสิก
เป็นสถานที่สำคัญของเมืองทัวร์เน ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 ตัวอาคารตรงกลางเป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ รายล้อมด้วยหอคอยขนาดใหญ่สไตล์โกธิคถึง 5 หลัง ภายในวิหารถูกตกแต่งด้วยกระจกสีเเบบโมเสกไว้อย่างสวยสดงดงาม นอกจากนี้ยังมีภาพวาดโบราณและจิตรกรรมฝาผนังที่มีอายุถึง 700 ปี
เป็นหอระฆังสูง 72 เมตร ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเบลเยียม จนได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก เมื่อขึ้นไปด้านบนสุดของหอระฆัง สามารถมองเห็นวิวของเมืองทัวร์เนทั้งหมดได้อย่างชัดเจน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมมากที่สุดอีกที่หนึ่งเลย
จัตุรัสใจกลางเมืองทัวร์เน ที่ล้อมรอบไปด้วยร้านกาแฟและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป (EU) และเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย นอกจากนี้ยังเป็นที่โด่งดังในเรื่องของช็อกโกแลตและเบียร์ที่ดีที่สุดในโลก แฟนพันธุ์แท้เรื่องช็อคโกแลตกับคอเบียร์ไม่ควรพล าด
จัตุรัสใจกลางเมือง จุดที่เป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมือง และยังเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (town hall) อาคารเกาแก่อายุหลายร้อยปี และถือว่าเป็นอาคารที่สวยที่สุดในบริเวณจัตุรัสแห่งนี้ก็ว่าได้ ชื่นชมในความงดงามของกลุ่มอาคารที่สร้างขึ้นแบบเรเนสซองส์ที่ตั้งเรียงรายอยู่ในจัตุรัส
เป็นโบสถ์สไตล์โกธิคขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในประเทศเบลเยียม เป็นที่เลื่องลือถึงถึงความงดงามที่ถูกประดับตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ไม่ว่าจะเป็นตัวโบสถ์ ซุ้มประตู รูปปั้น ทางเดิน เรียกได้ว่าทุกอย่างงดงามไร้ที่ติ ด้านในมีจัดแสดงผลงานศิลปะของ Peter Paul Rubens ซึ่งเป็นศิลปินชื่อดัง ชาวแอนท์เวิร์ป