เป็นเมืองที่เป็นที่รู้จักอย่างดีเกี่ยวกับหอเอนเมืองปิซา ซากโบราณวัตถุของเมืองที่ยังหลงเหลือจากศตวรรษที่5ก่อนคริสตกาล เป็นเมืองที่เคยมีความสำคัญมากด้านการค้าขายในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ปิซาเป็นเมืองที่มีความสำคัญด้านทางทะเลในช่วงประมาณศตวรรษที่11 ที่ถือว่าเป็นสาธารณรัฐทางทะเล ที่เป็นประวัติศาสตร์ของประเทศอิตาลี
เป็นที่ตั้งของมหาวิหาร - หอเอนแห่งเมืองปิซา ที่ไดรับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบึยนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1987
เป็นหอระฆังสูงใหญ่ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นหอระฆังที่สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ความเอนเอียงของหอระฆัง ซึ่งยอดของหอระฆังนั้นห่างจากแนวตั้งฉากของพื้นไปประมาณ 3.9 เมตร
เมืองหลวงอันเก่าแก่ในแถบทัสคานี (Tuscany) ส่วนกลางของประเทศอิตาลี ซึ่ง UNESCO จัดให้เป็นหนึ่งในมรดกของโลกในปี 1982 ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ฟลอเรนซ์ยังคงเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่ไร้วี่แววของตึกระฟ้า จะมีก็แต่ กลิ่นอายของความโรแมนติก เปรียบเสมือนเดินอยู่ในฉากภาพยนต์ตลอดเวลา
จัตุรัสที่ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้าชมมากที่สุดในยุโรป โดยจัตุรัสนั้นตั้งอยู่ในใจกลางของศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองฟลอเรนซ์
เป็นจตุรัสสวยงามด้วยประติมากรรมมากมายที่ตั้งเรียงรายอยู่ด้านหน้าของพระราชวังเวคคิโอ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญสุดของเมืองฟลอเรนซ์ ข้างในมีภาพวาดสวยงามของศิลปินชื่อดัง รูปแกะสลักตั้งแต่สมัยกรีกและโรมัน
สะพานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการสัญจรข้ามแม่น้ำอาร์โน โดยบนสะพานนั้นเป็นที่ตั้งของอาคารร้านค้า ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายงานศิลปะ อัญมณี และของที่ระลึกจำนวนมาก โดยเชื่อกันว่าสะพานที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยโรมัน ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชือ่เสียงมากแห่งหนึ่งของ เมืองฟลอเรนซ์
เป็นเมืองที่มีฉายาว่า เมืองแห่งสายน้ำ ความสวยงามตรึงใจของที่นี่เหมือนได้อยู่ในโลกนิทาน ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวน 118 เกาะ เข้าด้วยกันในบริเวณ ทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริกในภาคเหนือของประเทศอิตาลี
ในห้างนี้มีซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ของอิตาลี รวมทั้งเอ้าท์เลทกีฬาขนาดใหญ่ของ DECATHLON
เป็นจัตุรัสกลางเมืองเวนิสที่ล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม โปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่น ที่สวยที่สุดในยุโรป”
เป็นสะพานซุ้มโค้งสูงขึ้นที่อยู่เหนือแม่น้ำที่เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างเรือนจำและพระราชวัง สะพานอันงดงามที่แสนโรแมนติกแห่งนี้เป็นสะพานที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ (Doge’s Palace) อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือ คาสโนว่า นั่นเอง
เป็นที่ประทับของผู้ปกคองนครเวนิซ พระราชวังดอจ์ดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นใกล้กับโบสถ์นักบุญซานมาร์โค ตั้งแต่ปี 1172 เดิมที่พักของผู้ปกคองเดิมมิได้ประทับอยู่ ณ ที่แห่งนี้ แต่อยู่ในวังเดิมที่ย่าน Rialto ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 9 แต่ได้ถูกเพลิงไหม้ไป พระราชวังดอจ์ดแห่งนี้มีการปรับปรุงนับครั้งไม่ถ้วน
เป็นโบสถ์ประจำเมืองของเวนิส มีฉายาว่าโบสถ์ทอง (Church of Gold) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสซันมาร์โก ตัวโบสถ์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุคไบแซนไทน์จนถึงยุคเรอเนสซองส์ มีการประดับอย่างงดงามด้วยโมเสก และประติมากรรมต่างๆ แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ อำนาจ และ ความมั่งคั่งของเวนิส จุดกำเนิดของโบสถ์แห่งนี้มาจากการที่พ่อค้าชาวเวนิส ได้ขโมยศพของนักบุญมาร์ก (St. Mark) ผู้ซึ่งเป็นที่นับถือในเวนิสในฐานะนักบุญผู้เผยแผ่ศาสนาที่อิยิปต์ มาจากเมืองอเล็กซานเดรียในอียิปต์ เมื่อปี ค.ศ.828 แล้วนำมาถวายเจ้าผู้ครองเมืองเวนิสในขณะนั้น ซึ่งเจ้าผู้ครองเมืองก็ได้สร้างโบสถ์นี้ไว้เก็บศพของนักบุญมาร์กเพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน
สัญลักษณ์อีกอย่างของเมืองเวนิส สะพานข้าม Grand Canal ที่เก่าแก่และสวยงามทำให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากที่สุด เป็นจุดถ่ายภาพที่สำคัญแห่งหนึ่ง จุดเด่นของสะพานรีอัลโตคือมีหลังคาคลุมสะพานที่สวยงาม และยังเป็นย่านการค้าเก่าแก่ของเมืองมาตั้งแต่พันปีก่อนคริสตกาล
เมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดียและเป็นเมืองสำคัญทางภาคเหนือของประเทศอิตาลี เมืองใหญ่เป็นอันดับสองรองจากกรุงโรม ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี มิลานได้ชื่อว่าเป็นหลวงแห่งแฟชั่นและศิลปะชั้นนำของโลกอีกเมืองหนึ่ง มิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับนิวยอร์ค ปารีส ลอนดอน และโรม อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลานและสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน
จัตุรัสหลักกลางเมืองมิลานแห่งนี้ตั้งชื่อตามมหาวิหารมิลาน หรือ Duomo ที่เป็นสถานที่อันโดดเด่นของจัตุรัส โดยจัตุรัสแห่งนี้นั้นจัดได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองมิลานทั้งในด้านภูมิศาสตร์และความสำคัญด้านทัศนียภาพ ศิลปะ วัฒนธรรมและสังคม จัตุรัสมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีเนื้อที่รวมประมาณ 17,000 ตารางเมตร นอกจากจะประกอบไปด้วยอาคารที่สำคัญที่สุดของเมืองมิลานแล้วที่จัตุรัสแห่งนี้ยังเป็นย่านการค้าที่มีชื่อเสียงมากที่สุด และยังเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของมืองอีกด้วย
เป็นห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดของอิตาลีและเป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองมิลาน ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Giuseppe Mengoni ในช่วงระหว่างปี 1865 ถึงปี 1877 มี Town House Galleria โรงแรมระดับ 5 ดาวตั้งอยู่ภายใน อยู่ติดกับโบสถ์ที่เป็นแลนด์มาร์คหลักของเมืองมิลาน คือ มหาวิหารมิลาน(Milan Cathedral)
เป็นศิลปินชาวอิตาลี ที่เป็นทั้งสถาปนิกแบบเรอเนซองส์ นักดนตรี นักกายวิภาค นักประดิษฐ์ วิศวกร ประติมากร นักเรขาคณิต และจิตรกร สร้างผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงหลายชิ้น เช่นภาพวาด “พระกระยาหารมื้อสุดท้าย” (The Last Supper) และ “โมนาลิซ่า” (Mona Lisa) เป็นต้น
สร้างไว้เพื่อเชิดชูพระเกียรติ์ของพระมหากษัตริย์วิกเตอร์เอมานูเอลที่สองผู้ซึ่งเป็นผู้รวบรวมแคว้นต่างๆ ในคาบสมุทรอิตาลีและสถาปนาขึ้นเป็นอาณาจักรอิตาลี
มิลานมีชื่อเสียงโดดเด่นในด้านแฟชั่น ออกแบบ และถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นของโลก ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้าหนังแท้ เฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน มีนายแบบนางแบบและเศรษฐีมากมายที่อยากมาเมืองแฟชั่นนี้ ที่นี่ มีการจัดสถานที่จัดแสดงแฟชั่นและจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม มีสถานที่ช้อปปิ้งมากมาย เช่น แกลเลอเลีย วิตตอริโอ เอมานูเอเล2,ถนนสายแบรนด์ดังๆ อาทิ Corso Buenos,Aires Via Monte Napoleone,Piazza San Babila,Emauele, Piazza del Duomo,ย่านเที่ยวกลางคืน เช่น ย่านอิโซลา ย่าน Naviglio Grande
เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมากมายจากทุกมุมโลกต่างเดินทางไปกรุงโรม เพื่อชื่นชมกับศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ โรมเป็นมหานครที่มีสีสันเฉพาะตัว คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยว ถือเป็นเมืองประวัติศาสตร์แห่งหนึ่ง ทุกหัวมุมถนน เต็มไปด้วยโบสถ์ สิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่โต และรูปปั้นโบราณ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย
หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า "เซนต์ปีเตอร์บาซิลิ" เป็นมหาวิหารหนึ่งในสี่ของมหาวิหารหลักในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และ สำคัญที่สุดในนครรัฐวาติกัน โดมของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สูงโดดเด่น สามารถเห็นได้แต่ไกลในตัวเมืองโรม วัดนี้ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2.3 เฮกตาร์ สามารถจุคนได้กว่า 60,000 คน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่หนึ่งของคริสตชนนิกายโรมันคาทอลิก เชิญชมความอลังการ พบกับปฏิมากรรมปิเอต้า รูปแม่พระประคองร่างพระเยซูหลังจากถูกปลดลงจากไม้กางเขน รูปปฎิมากรรมบรอนซ์
สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม และ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคประวัติศาสตร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของชาวโรมันโบราณ เด่นในแง่สถาปัตยกรรม สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามี ลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆในปัจจุบัน เชิญชมความยิ่งใหญ่ในอดีตของจักรวรรดิโรมันโบราณ ที่มีอายุกว่า 2,500 ปีมาแล้ว
เป็นน้ำพุที่ตั้งอยู่ที่เทรวี ริโอเนในกรุงโรมในประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร (85 ฟุต) และกว้าง 19.8 เมตร (65 ฟุต)และน้ำพุแบบบารอคที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโรม เชิญชมความงดงามของ "น้ำพุเทรวี่" ที่นักท่องเที่ยวสามารถโยนเหรียญ เพื่อขอให้ได้เดินทางกลับมาที่กรุงโรมอีก มีตำนานเล่าว่า หากหันหลังแล้วโยนเหรียญลงน้ำพุเทรวี แล้วอธิษฐานให้ได้กลับมากรุงโรมอีกครั้ง ก็จะสมหวัง
ถูกเรียกชื่อตามสถานฑูตสเปน ซึ่งตั้งอยู่ ณ บริเวณนั้น ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ชื่อ Francesco de Sanctis เริ่มสร้างเมื่อปี คศ.1723 แล้วเสร็จในปี คศ.1725 ถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโรม และยังเป็นแหล่งพบปะของหนุ่มสาว ผู้คนชอบที่จะมานั่งเรียงรายบนบันไดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และของชำร่วยชื่อดังของกรุงโรมอันมีชื่อเสียง